เป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่สะดุดตาอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักและลองไปเที่ยวกันดูซึ่งในสรุปทริปนี้ทีมงานสะดุดตาได้มีโอกาสร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กับการเที่ยวเส้นทางข้าวไทย(Thai Rice Tour) ที่จังหวัดสุโขทัย เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและน่าสนใจของจังหวัดสุโขทัย

ทริปนี้เราออกเดินทางจากรุงเทพฯ กันแต่เช้าด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ซึ่งเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงมายังสุโขทัยจากกรุงเทพมหานคร เราตั้งใจจะมากันแต่เช้า เพราะกิจกรรมแรกของเราในวันแรกของการเดินทางนี้เป็นกิจกรรมกลางแจ้งที่แสนจะสนุกสนานกับกิจกรรมห้องเรียนกลางแจ้ง ที่โครงการเษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย เริ่มต้นด้วยการเรียนรู้พันธุ์ข้าวต่างๆ ที่ปลูกในโครงการฯ โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชียวชาญ ก่อนที่จะพาเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดชาวนาแบบเต็มขั้นเพื่อเตรียมตัวไปเป็นชาวนาและชาวสวนกัน กับกิจกรรมเก็บไข่เป็ด เก็บผัก เพื่อนำมาทำอาหารมื้อเย็นทานกัน นอกจากนั้นก็ยังได้ลงมือดำนา ปลูกข้าว และเยี่ยมชมการบรรจุข้าวที่ผ่านการสีแล้วของโครงการฯ

ภาพ : ไปเป็นชาวนากัน

ภาพ : เก็บไข่

ภาพ : เก็บผัก

ภาพ : ขี่ควาย

ภาพ : ต้นกล้าเตรียมไปดำนา

ภาพ : ดำนาจริงๆ

ออกจากโครงการเกษตรอินทรีย์ เราก็เดินทางต่อมายังแหล่งปลูกและส่งออกใบตองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่มีพื้นที่ปลูกใบตองมากถึง 8000 ไร่ นอกจากจะฟังเจ้าของสวนเล่าถึงการปลูกต้นกล้วยเพื่อส่งออกใตองซึ่งเค้าส่งขายกันทั้งในและต่างประเทศแล้วนั้น เรายังได้เข้าสวนเพื่อไปดูการตัดใบตองอีกด้วย ออกจากสวนกล้วยก็เป็นเวลามื้อกลางวันแล้ว ซึ่งมื้อนี้เราจะปิคนิคกันใต้ร่มไม้ในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ด้วยมื้อกลางวันที่ห่อด้วยใบตองให้สมกับที่มาเที่ยวเมืองที่ส่งออกใบตองมากที่สุดในประเทศไทย และไหนๆ ก็มาถึงอุทยานประวัติศาสตร์แล้วเราจะพลาดไม่ได้เลยกับการเที่ยวชมโบราณสถานภายในอุทยานฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่อยู่ในประเทศไทย

ภาพ : แหล่งผลิตใบตองใหญ่ที่สุดในประเทศ

ภาพ : ข้าวกลางวันห่อใบตองกิน

ภาพ : อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
เที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยกันแล้ว พวกเราออกเดินทางเข้าที่พักซึ่งเรามีกิจกรรมทำอาหารร่วมกันทั้งการหุงข้าวแบบโบราณ(เช็ดน้ำ) การนำพืชผักและไข่เป็ดที่เก็บไว้ในตอนเช้ากับกิจกรรมห้องเรียนกลางแจ้งที่โครงการเกตรอินทรีย์มาปรุงอาหาร อีกทั้งยังนำใบตองที่นำกลับมาจากสวนเมื่อตอนกลางวัน มาห่อขนมไทยพื้นบ้านเพื่อเตรียมอาหารทั้งคาวหวานเพื่อไปรับประทานร่วมกัยในมื้อเย็น

ภาพ : กิจกรรมทำกับข้าว

ภาพ : ปั่นจักรยานไปทำสังคโลก
หลังจากเตรียมมื้อเย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็พากันปั่นจักรยานไปชมเครื่องสังคโลก สินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุโขทัยที่ใครมาก็มาชม นอกจากชมและซื้อกลับบ้านแล้วที่ร้านสังคโลกเค้ายังมี workshop สอนวาดลายสังคโลกพร้อมบริการส่งไปยังบ้านอีกด้วย เขียนลายสังคโลกกันกว่าจะเสร็จแดดก็ร่มพอดี เราจึงปั่นจักรยานไปชมพระอาทิตย์ตกกันในอุทยานประวัติศาสต์สุโขทัยพร้อมกับทานมื้อเย็นกันในอุทยานฯ ด้วยเลย ก่อนจะปั่นจักรยานกลับมาพักผ่อนกันและจบกิจกรรมที่สนุกสนานในวันแรกของการเดินทาง

ภาพ : ลวดลายฝีมือตัวเองทำเครื่องสังคโลก

ภาพ : พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วจร้า

ภาพ : อาหารเย็น
เช้าวันที่สอง ของการเดินทางเริ่มขึ้นด้วยการนั่งรถคอกหมู และสามล้อแดงไปยังตลาดเช้าที่เมืองเก่า ซึ่งชาวพุทธก็จะมาใส่บาทกันบริเวณนี้ เดินเล่น เดินชม ซื้อของกินจากตลาดเช้าแล้วก็นั่งรถคอกหมูกลับไปยังโรงแรมเพื่อเตรียมตัวเที่ยวกันต่อในวันที่สองของการเดินทาง

ภาพ : ตักบาตรเช้า

ภาพ : นั่งรถคอกหมู สุโขทัย
ออกจากโรงแรมในช่วงสายๆ ปลายทางของเราคือบ้านนาต้นจั่น อ.ศรีสัชนาลัย หมู่บ้านท่องเที่ยวที่น่ารักและมีความน่าสนใจมากมายให้สัมผัส กับผ้าทอหมักโคลน ซึ่งเป็นที่นิยมกันสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่บ้านนาต้นจั่นแห่งนี้ ไม่แพ้ ข้าวเปิ๊บ อาหารพื้นถิ่นของชาวบ้านนาต้นจั่นที่ไม่ควรพลาดเพราะไม่สามารถหากินได้ทั่วไป ที่บอกว่าบ้านนาต้นจั่นนี้ เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย
ก็ด้วยเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ผู้คนยิ้มแย้มน่ารัก เต็มใจต้อนรับนักท่องเที่ยว มีจุดน่าสนใจหลายอย่าง ดั่งเช่นที่กล่าวมาแล้ว คือ ผ้าทอหมักโคลนที่แสนจะนิ่มและมีลวดลายสีสันและการออกแบบที่เฉพาะตัว อาหารการกินเพียบพร้อม ทั้งอาหารพื้นถิ่นขึ้นชื่อ อย่างข้าวเปิ๊บ ก๋วยเตี๋ยวแบ หมี่พัน และพืชไร่อย่างข้าวโพด และสวนผลไม้ซึ่งจะออกตามฤดูกาลอย่าง ทุเรียน ลองกอง ลำไย แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจไปไม่น้อยไปกว่ากันทั้งจุดชมวิวที่จะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ศูนย์อนุรักษ์ช้างภูนกซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน กิจกรรมปั่นจักรยานชมเลือกสวนไร่นา หรือจะไปชมภูมิปัญญาพื้นบ้านเครื่องออกกำลังกายมือ ตุ๊กตาบาโหน ของตาวงษ์ ปราญช์ชาวบ้านที่มีอายุกว่า 87 ปีแล้ว(2557) เรียกว่าอยู่เที่ยวกันได้หลายวันเลยทีเดียว

ภาพ : ลองกองบ้านนาต้นจั่น

ภาพ : ผ้าหมักโคลน

ภาพ : ตุ๊กตาบาร์โหน บ้านนาต้นจั่น

ภาพ : ข้าวเปิ๊บ
ออกจากบ้านนาต้นจั่นเราตรงไปยังพิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำ ของอาจารย์สาธร ฟังอาจารย์เล่าเรื่องผ้าทองคำและประวัติความเป็นมาของชาวไทยพวนบ้านหาดเสี้ยว ที่มีภาษาพูด วัฒนธรรม วิถีและการแต่งการที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และซื้อสินค้าผ้าทอบ้านหาดเสี้ยว เงินและทองสุโขทัยเป็นของติดไม้ติดมือกลับกรุงเทพฯ ไปด้วยความสนุกสนานและประทับใจ เป็นการจบทริปสองวันหนึ่งคืนอย่างรวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อ

ภาพ : อาจารย์สาธร ณ พิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำ
สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวนี้เป็นอีกหนึ่งเส้นทางท่องเที่ยวที่ยวที่น่าสนใจ สำหรับเพื่อนๆ สะดุดตาที่กำลังมองหาที่เที่ยวที่ชิลล์ๆ เนิบช้า ใช้ชีวิตแบบสบายๆ สัมผัสวิถีของผู้คน ลองไปเที่ยวตามเส้นทางนี้กันได้ค่ะ ขับรถเที่ยวเองได้สบายๆ เลย
ประเภทบทความ:
จังหวัด: